วันอาทิตย์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

7_ตะลุยร้านอาหารจีน

หลังจากที่เราขึ้นสถานีนั้น ออกสถานีนี้ พี่บำรุงเชิญชวนให้ผมไปยืนตากฝนอยู่หน้าปราสาทหลังงามกับน้ำพุสวย ๆ  เพื่อถ่ายรูป แต่รู้สึกเธอจะให้ความสำคัญกับการถ่ายรูปมาก ๆ จริง ๆ แล้วเธอให้ความสำคัญกับการเอารูปสวยสุด ๆ ในความรู้สึกของเธอลงเฟสบุ๊คโชว์เพื่อน ๆ มากกว่า  ผมให้เธอเก็บภาพของผมและเมื่อผมจะถ่ายรุปเธอบ้างเธอก็กำชับว่า "ถ่ายสวย ๆ เลยนะพ่อ...เอาให้สวยเลยนะพ่อ"
จากนั้นเราพากันไปเลือกซื้อเสื้อผ้ากันหนาวที่ร้านขายอุปกรณ์กันหนาวที่ราคาไม่แพงนัก ปรากฏว่าเหลือเวลาอีกไม่ถึงสิบนาทีที่เราได้จองที่นั่งในร้านอาหารจีนแบบบุฟเฟ่เอาไว้ พี่บำรุงตั้งใจจะพาผมไปชมอีกแห่ง แต่เวลาไม่พอ เราจึงตรงไปที่ร้านอาหารจีนกันเลย ร้านนี้มีชื่อเก๋ไก๋ว่า XIER คำว่า เซียะ ในภาษาจีนน่าจะมีความหมายอะไรสักอย่างที่เป็นมงคล เดี๋ยวเอาไว้ผมจะไปค้นหาทีหลัง แต่ตอนนี้ขอตั้งหน้าตั้งตากิน ๆ ๆ ก่อน
เมื่อไปถึง พี่บำรุงแนะนำให้ผมรู้จักกับสองสาวไทยที่คนหนึ่งชื่อ "อั้ม" พี่บำรุงแนะนำว่าเป็นลูกสาวของเพื่อนของพระคุณเจ้าสิริพงษ์ สมัยที่ท่านเดินทางศึกษาต่อด้านจริยศาสตร์ที่โรม เราแนะนำตัวกันจนรู้ว่า เราอายุเท่ากันเพราะเกิดปีเดียวกัน และตอนนี้เธอทำงานเสิร์ฟอยู่ที่ร้านอาหารไทยชื่อ "บุษราคัม" และเธอมีสามีแล้ว ส่วนอีกคนเป็นญาติผู้พี่ของอั้ม ผมต้องขอโทษเธอที่จำชื่อเธอไม่ได้ แต่อีกไม่นาน ผมจะได้ไปเยี่ยมบ้านเธอซึ่งอยู่เหนือสุดติดกับชายแดนประเทศฝรั่งเศษ และติดกับทะเล เธอหนีบชายร่างบึกบึนสัญชาติอิตาเลียนมาด้วยหนึ่งคน  พี่บำรุงแนะนำว่าเป็นแฟนของเธอแต่มาเฉลยในภายหลังว่าเป็นแฟนใหม่ หลังจากที่สามีเก่าเสียชีวิตไปแล้ว....เราสนใจชีวประวัติกันแค่นี้ก็พอแล้ว เพราะอาหารหลากชนิดรอเราอยู่ ผมเลือกชิมสเตกเนื้อหมู ไก่และปลา น้ำซุปข้น ๆ ยำสาหร่าย ผัดเส้นหมี่ และที่หน้าตาแปลกแต่เรียกชื่อไม่ถูกอีกหลายอย่าง และตบท้ายด้วยไอศกรีมชาเขียว เพื่อประชดชีวิตในความหนาวเย็นด้านนอก....หลังจากมื้ออาหารจบสิ้น พี่บำรุง อั้มและผมพากันไปส่งคู้รักใหม่เดินทางกลับไปเยี่ยมบ้านที่สถานีรถไฟ  จากนั้นก็พาผมเดินไปจัดการเรื่องซิมโทรศัพท์และไอแพด ก่อนจะไปแวะซื้ออาหารและเครื่องปรุงแบบไทยที่ร้านขายของชาวจีน เห็นเธอสอยมาม่ามาเต็มตะกร้า  สิ้นสุดชั่วโมงบินของวันนี้ ท้องฟ้ามืดไปหมดแล้ว ใจผมหวั่นหวาดด้วยไม่อยากกลับเข้าอารามค่ำมืด แต่จริง ๆ ต้องบอกว่าเพียงหนึ่งทุ่มเท่านั้น  พี่บำรุงและอั้มส่งผมขึ้นรถไฟใต้ดินและเราก็โบกมือลากันตรงนั้น ผมแอบยิ้มให้กับวันนี้ที่สองขาได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ ๆ เพิ่มเติม ก่อนจะค่อย ๆ เปิดประตูอารามกลับเข้าไปหายใจต่อในรั้วกำแพงสี่เหลี่ยมที่มีความอบอุ่นรออยู่


 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น